ปัจจัยที่มีผลต่อการปวดหลังมากที่สุดก็คือ ท่าทางการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้อง การอยู่ในท่าเดิมนานๆต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ยกของ ขับรถ การทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ การใส่รองเท้าส้นสูง ความอ้วน ลงพุง ฯลฯ การเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถมีผลต่ออาการปวดหลังและเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดหลังด้วย ดังนั้นการรู้จักตนเองจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการรักษาที่ท่านรักษาอยู่ แม้จะรักษาด้วยวิธีการใดก็ตามจนหายขาด แต่ก็ต้องมีสติระลึกรู้ในอิริยาบถที่ถูกต้องในการใช้ชีวิต
เพราะหากยังสร้างเหตุที่ผิดท่านอาจมีอาการกลับมาอีกได้ แต่ในปัจจุบันการบำบัดรักษาอาการปวดหลังมีทั้งการทานยาไปจนถึงการผ่าตัด อย่างไรก็ตามแพทย์ทางเลือกอย่างแพทย์แผนไทยประยุกต์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างร่างกายโดยไม่ใช้ยา แต่ใช้เทคนิคเฉพาะของสถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ เพราะจริงๆแล้วสาเหตุของการปวดหลัง 90% มาจากความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย นั่นคือเป็นความบกพร่องของระบบกระดูกกล้ามเนื้อ
อีกเพียง 10% เท่านั้นที่มาจากการเป็นโรคอื่นๆ เช่น มะเร็ง ความบกพร่องของภูมิในร่างกาย โรคไต โดยอาการปวดหลังพบมากในคนวัยทำงานทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 27-50 ปี มีสาเหตุหลักมาจากการนั่งหลังงอ หรือนั่งไขว้ห้าง ซึ่งน้ำหนักจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งจนทำให้กระดูกสันหลังคด การทำงานอยู่หน้าจอคอมพ์ หรือพิมพ์งานนานๆ กล้ามเนื้อบริเวณไหล่และคอจะเกร็ง จึงปวดเมื่อยบริเวณบ่าและคอ การเดินบนรองเท้าส้นสูงนานๆ การยืนพักขาโดยทิ้งน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง การกอดอก หรือแม้กระทั่งการนอนขดตัว การนอนทับข้างใดข้างหนึ่งก็ล้วนเป็นสาเหตุของอาการปวดหลัง คอ และบ่า หากสะสมนานๆ อาจกลายเป็นโรคปวดเรื้อรังได้